เรื่องสั้น “วู่วาม”
วู่วาม
ผมชื่อ ไกร คนอื่นเรียกผมว่า ' อสูรไกร ' ทุกคนมองผมเป็นตัวร้าย ผมเหมือนปีศาจร้ายที่ใครๆต่างก็เกรงกลัว แต่ที่จริงแล้วนั้นผมมีชีวิตที่น่าสมเพช ผมแค่ทำเป็นเข้มแข็งเพื่อให้ตัวเองไม่ตกเป็นเหยื่อ ผมใช้ชีวิตอย่างขาดสติในทุกๆวันเพื่อให้เพื่อนในกลุ่มยอมรับในตัวผม และผมมักจะมาคิดได้ทีหลังตอนที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว ผมต้องสูญเสียหลายอย่างกับเรื่องที่ทำลงไป แต่ทั้งหมดที่ผ่านมานั้นไม่มีเรื่องไหนที่เสียใจเท่าเรื่องที่ผมกำลังจมอยู่กับมันในตอนนี้….
๑๓ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันเกิดของ แพร คนที่ผมชอบ ผมแอบชอบแพรมา 3 ปี ตั้งแต่แพรเข้ามาใหม่ๆ แต่แพรไม่ชอบผมเพราะผมเป็นนักเลง ก็อย่างที่ว่าผมเป็นปีศาจในสายตาทุกคน แม้ผมจะพยายามปกป้องแพรมาตลอดแต่แพรก็ยังเกลียดผม วันเกิดแพรในทุกๆปีผมจะแอบเอากล่องของขวัญไปวางไว้บนโต๊ะของแพร เมื่อเธอมาเห็นก็จะตะโกนถามว่าอันนี้ของใคร ผมมีความสุขตอนที่ได้เห็นท่าทีของเธอ แต่ถ้าเธอรู้ว่ามันเป็นของผมต้องโยนทิ้งแน่ๆ ผมแอบให้เป็นปกติในทุกปี แต่มาปีนี้มีคนรู้ว่าคนที่ให้ของขวัญกับแพรเป็นผม คนนั้นก็คือต้นเพื่อนสนิทของผม มันก็ชอบแพรอยู่เหมือนกันแต่ผมไม่เคยรู้มาก่อน
“คนที่เอาของขวัญมาให้แพรทุกปีอ่ะ คือมึงใช่ไหม!” มันกระชากคอเสื้อผมและถามเสียงดัง ในตอนนั้นแพรก็เดินเข้ามาพอดีเหมือนเธอจะรีบมาดูว่าใครเป็นคนเอาของขวัญมาวางบนโต๊ะเพราะปกติแล้วเธอจะมาโรงเรียนสายมาก ทันทีที่เธอเห็นผม เธอรีบวิ่งมาที่โต๊ะแล้วมองมาที่ผม ก่อนเอ่ยถามผมอย่างไม่ต้องการคำตอบและไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดอธิบายเหตุผล “คนที่เอาของขวัญมาให้ฉันทุกปีคือนายเองหรอ..นายคิดว่าฉันจะดีใจสินะที่รู้ว่าเป็นนาย ฉันเกลียดนายรู้ใช่ป่ะ อย่าทำแบบนี้อีก” พูดจบแพรก็ยัดกล่องของขวัญใส่มือผมแล้วบอกว่าที่ให้มาทั้งหมดเดี๋ยวจะเอามาคืนให้ ณ ตอนนั้น ผมก็ถามแพรไปว่าเกลียดอะไรผมนักหนา แล้วไอ้ต้นก็พูดแทรกขึ้น “มึงตัดใจซะเถอะ เขาไม่มีวันชอบมึง” ผมไม่คิดว่าไอ้ต้นจะพูดกับผมแบบนี้ มันเอาความมั่นใจมากจากไหน แต่ทว่าเราก็ยังไม่ได้แตกหักเพียงเพราะแค่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน ในตอนกลางวันมันก็ชวนผมไปกินข้าวตามปกติ แต่ผมไม่ค่อยกล้าสู้หน้ามันเท่าไหร่ ขณะที่นั่งกินอยู่ที่โต๊ะมันก็ถามผมขึ้นมา
“มึงเริ่มชอบแพรตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ผมลังเลที่จะตอบเพราะกลัวว่าจะเริ่มชอบช้ากว่ามัน ผมเลยตอบไปตามตรงว่าชอบตั้งวันแรกที่เจอแพร มันก็พูดโอ้อวดสาธยายต่อว่ามันเจอแพรอย่างไร ด้วยสีหน้าดูชิวๆ ไม่ได้ดูหึงหวงอะไรมากนักเหมือนกับมันคิดว่ามันจะเป็นผู้ชนะอย่างงั้นล่ะ แค่คิดก็อยากจะหัวเราะออกไปดังๆ
แต่ทว่าพอมาคิดๆดูแล้วเราทั้งสองคนไม่มีทางได้ใจแพร ถึงใครคนใดคนหนึ่งได้ใจแพรไปก็ต้องมีคนหนึ่งที่อิจฉาสุดท้ายเราอาจจะเกลียดกันไปตลอด ตอนนั้นผมเลยตัดสินใจแกล้งบอกว่าจะเลิกชอบแพรแล้ว เพราะการตัดใจมันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ใครจะเลิกชอบได้ในวันสองวัน แต่ในเมื่อเธอเกลียดผม ผมก็จะทำให้เธอเกลียดผมต่อไป เธอไม่จำเป็นต้องมารักผม ไม่ต้องสนใจความรู้สึกข้างในของผม ในตอนนั้นผมคิดเช่นนี้ ผมไม่มีความคิดที่จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเพื่อพิชิตใจเธอแม้แต่นิดเดียว ตอนนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำตัวอย่างไรถึงจะเรียกว่าเป็นคนดี และในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น เพื่อนของผมก็ส่งข้อความมานัดให้ไปเตะต่อยกับคนอื่นอีกตามเคย มันเหมือนกับเป็นงานอดิเรกที่ต้องทำแทบทุกวันผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปทำไม เพื่อความสะใจกระมัง ถ้าโดนทัณฑ์บนอีกไม่กี่ครั้งผมจะโดนไล่ออก เหมือนผมจะคิดได้แต่ก็ยังไม่เลิกทำ ผมคิดว่าผมคงเลิกไม่ได้ พอไปถึงตามนัดตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นนัดปกติที่เราเคยนัดกันบ่อยๆ แต่ทันที่เดินเข้าไปผมก็โดนหมัดซัดเข้าเต็มหน้าจนล้มไม่เป็นท่า ผมรีบลุกขึ้นเพื่อมองหน้าคนที่ต่อยผม กลายเป็นว่ามันคือไอ้ต้นและพวกพ้องของมันที่เคยอยู่กับผม ตอนนั้นผมเกิดอาการหัวเสียมาก ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ผมเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อมันและถามมันว่ามันเป็นอะไร มันยิ้มแสยะมุมปากเอามือขึ้นมาจับแขนผมที่จับคอเสื้อมันอยู่แล้วมันก็พูดตวาดขึ้นเสียงใส่ผม มันบอกว่าจริงๆแล้วมันกำลังคบกับแพรอยู่ คบมาสักพักแล้วด้วย ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ผมอุตส่าห์บอกไปว่าจะเลิกชอบเพื่อจะได้ไม่มีปัญหากัน ผมก็นึกว่ามันจะเลิกชอบไปด้วย เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง คนอย่างแพรเนี่ยนะจะเอามัน แต่ไหนๆผมก็มาที่นี่เพื่อต่อยทั้งทีผมก็เลยต่อยหน้าไอ้ต้นไป 1 ที จะได้รู้สึกว่าไม่มาเสียเที่ยว ทันทีที่ผมต่อยมันล้มลงพวกของมันก็กรูเข้ามาจะกระทืบผม โชคดีการต่อสู้ของผมไม่เป็นสองรองใครจึงไม่ตายจากเหตุการณ์นั้น
ผมกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่มีแผลฟกช้ำและรอยแตกเล็กน้อยแต่มันไม่เจ็บเท่าการโดนเพื่อนหักหลัง ในตอนแรกผมว่าจะเดินเข้าบ้านไปเฉยๆ แต่ต้องหยุดเพราะเหมือนมีใครบางคนนั่งอยู่หน้าบ้านผม ผมยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไรเขาก็พูดขึ้นมาก่อน
“คนเลวๆแบบนาย คู่ควรกับแผลแบบนั้นสินะ คงไม่เหมาะกับหน้าปกติดีๆหรอก”
ทันทีที่ได้ยินเสียงเขาผมก็รู้แล้วว่าเป็นใคร…แพรมานั่งทำอะไรที่หน้าบ้านผม เธอมาพร้อมกับถือถุงอะไรสักอย่างดูแล้วน่าจะเป็นสิ่งที่เธอบอกว่าจะคืนให้ แต่ต้องมาถึงหน้าบ้านเลยหรอ แล้วเธอรู้จักบ้านผมได้ยังไง
ผมชวนแพรเข้ามาในบ้าน เธอก็เดินดูไปพลางๆ บ้านผู้ชายที่อยู่คนเดียวก็จะเป็นสไตล์ผู้ชายที่ค่อนข้างรกนิดหน่อย แต่เธอกลับบอกว่าบ้านสะอาดกว่าที่คิด ผมแปลกใจที่เธอเต็มใจเข้ามาในบ้านผม ผมจึงพูดออกไปประมาณว่าไม่ชอบแต่มาหาถึงบ้านเนี่ยนะ แพรยื่นถุงในมือให้ผม สีหน้าของแพรต่างจากตอนที่อยู่ที่โรงเรียน ดูไม่ได้แสดงความเกลียดชังแต่กลับเป็นสีหน้าที่ดูสบายๆเหมือนตอนคุยกับคนอื่นปกติ
แพรบอกว่าเธอแค่ทำเป็นเกลียดเพราะไม่อยากให้มีปัญหากับต้น จริงๆก็เกลียดแต่ไม่ได้เกลียดถึงขั้นขยะแขยง พูดจบแพรก็เดินออกไปในทันที ผมตรวจเช็คของในถุงที่แพรยื่นให้มันเป็นของที่ผมให้เธอจริงๆเธอคืนหมดทุกอย่าง ผมคงทำอะไรให้เธอไม่ได้อีกแล้ว แต่ผมเจอบางสิ่งที่ผมไม่เคยให้เธอติดมาในถุงด้วย มันเหมือนพวกกุญแจธรรมดา จะวิ่งเอาไปคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว เลยคิดว่าค่อยเอาไปคืนที่โรงเรียน แต่ด้วยความชี้สงสัยของผม ผมแค่จะลองงัดแงะมันออกดูเล่นๆ ปรากฏว่ามันคือแฟลชไดรฟ์ ถ้าถามว่าผมได้เปิดดูไหม ผมเปิดครับ และผมก็ดื่มเหล้าไปด้วยทำให้ลืมตัวและไม่มีสติในขณะนั้น ผมเปิดดูทุกโฟลเดอร์จนครบก็ยังไม่เจออะไรที่ผิดปกติ มีแต่งานที่เอาไว้ส่งอาจารย์ แต่ผมดันไปเปิดโฟลเดอร์หนึ่งที่ซ่อนอยู่ ผมตกใจที่เธอจะทำอะไรแบบนี้ด้วย จู่ๆผมก็เหมือนถูกครอบงำ ผมคิดวิธีที่จะทำให้สองคนนั้นเลิกกันได้ ผมเข้าไปในหน้าเพจข่าวของโรงเรียนและโพสเผยแพร่คลิปที่อยู่ในโฟลเดอร์ ตอนนั้นหัวผมโล่งไปหมดไม่ทันได้คิดอะไรทั้งนั้น แต่ทันทีที่ผมลงคลิปนั้นก็มีคนเข้ามาชม พอสติกลับมาผมก็รีบกดลบทันที แต่มันยังไม่จบแค่นั้น คลิปได้ถูกคนที่เข้ามาดูอัดไว้อีกที ทำให้มันเผยแพร่ต่อไปอีก ในวันต่อมาแพรถูกซุบซิบนินทา ผมรู้สึกผิดกับแพรมากจนไม่กล้าสู้หน้า ได้แต่คิดว่าแพรจะรู้ไหมว่าผมที่เป็นคนทำ ผมทำไปเพื่อแค่อยากให้เขาเลิกกัน ไม่ได้คิดถึงจิตใจของแพร ทั้งๆที่ผมชอบเธอมากแท้ๆ แต่การชอบมากเกินไปมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว ผมทำได้แค่นั่งนิ่งๆอยู่ที่โต๊ะแล้วมองแพรจากข้างหลัง และต้นก็เดินเข้ามาหาแพรพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้เธอดูจากนั้นก็ต่อว่าขึ้นเสียงใส่เธอ หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกันต่อ เย็นในวันนั้นหลังเลิกเรียนผมตั้งใจจะไปขอโทษแพรและบอกว่าผมเป็นคนทำ แต่ผมตามหาเธอจนทั่ว ทั้งที่โรงเรียน ทั้งร้านที่แพรชอบไป ทั้งที่บ้านแพร แต่ก็หาแพรไม่เจอ ผมภาวนาขอให้แพรไม่เป็นอะไร แต่ดูเหมือนฟ้าจะโยนคำภาวนาของผมทิ้ง การกระทำของผมทำให้แพรตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันนั้น
ความรู้สึกของผมตอนนั้นเหมือนดำดิ่งลงไปก้นเหวแล้วถูกกระแทกจนแหลกสลาย ไม่คิดว่าการกระทำตามอารมณ์ตามความคิดที่ผุดขึ้นมาแค่เพียงชั่ววูบจะทำให้ใครคนหนึ่งต้องหายไปตลอดกาล และมันทำให้ผมต้องทนทุกข์ทรมานกับความรู้สึกผิดจนแทบจะเสียสติ บางครั้งผมคิดจะฆ่าตัวตายให้จบๆไปเสียที แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าผมต้องมีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้ให้แพร เพราะสิ่งที่ผมต้องเจอยังไม่หนักหนาเท่ากับสิ่งที่เธอต้องเจอจากการกระทำโง่ๆของผม ความผิดครั้งนี้ทำให้ผมได้ทบทวนในสิ่งต่างๆที่ผมได้ทำไว้มากมาย
สุดท้ายนี้ผมรู้แล้วว่าการใช้ชีวิตแบบขาดสติ ไร้ความคิด มันทำให้ผมต้องประสบพบเจอกับอะไร ถึงต่อให้ไม่มีเรื่องแพรเกิดขึ้นแต่ผมเชื่อว่าสักวันผมก็อาจทำเรื่องอะไรที่ใหญ่ไปกว่านี้ ผมคิดไม่ถึงเลยว่าถ้าวันนี้ผมยังคิดไม่ได้ ตอนนี้ชีวิตคนรอบข้างผมจะเป็นอย่างไร จงมีสติในทุกๆวัน คิดก่อนกระทำเป็นสิ่งสำคัญ คนอื่นไม่ได้สนุกหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำเสมอไป
โดยนางสาว วรนิษฐา คชวัตร , โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย